ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ …
3722.ดึงสลากกินแบ่งรัฐบาลไปจากมือของผู้เสียหายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดฐานลักทรัพย์หรือวิ่งราวทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2568 (ประชุมใหญ่) จำเลยดึงเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ยังไม่ได้ตรวจไปจากมือของโจทก์ร่วมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ต่อมาโจทก์ร่วมก็ยินยอมปล่อยให้จำเลยนำสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจได้โดยจำเลยไม่ได้หลบหนี พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่เอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปตรวจรางวัลให้แก่โจทก์ร่วมจึงเป็นการถือวิสาสะเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าเป็นการลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปโดยการฉกฉวยเอาซึ่งหน้าอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง
การที่จำเลยได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลจากโจทก์ร่วมไปครอบครองแล้วจำเลยกลับเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไป เมื่อโจทก์ร่วมทวงถามก็ไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วมโดยปราศจากเหตุผลอันจะอ้างตามกฎหมายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการครอบครองสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมแล้วเบียดบังเอาเป็นของตนเองหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 352 วรรคหนึ่ง
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักสลากกินแบ่งรัฐบาลของโจทก์ร่วมไปในเวลากลางคืนโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 335, 336, 352 คือการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยทุจริตเช่นเดียวกัน คงแตกต่างกันเพียงเรื่องการเอาทรัพย์นั้นไปโดยวิธีการใดเท่านั้น ดังนั้น ข้อแตกต่างระหว่างความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์และฐานยักยอกทรัพย์จึงถือได้ว่ามิได้แตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ ทั้งคดีนี้จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาทรัพย์ของโจทก์ร่วมไปไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความนั้นได้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม
(หมายเหตุ 1 จำเลยฎีกาว่า จำเลยเข้าหุ้นร่วมกันซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับผู้เสียหาย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในขณะที่ผู้เสียหายขอสลากกินแบ่งรัฐบาลคืนจากจำเลย จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านหรือโต้เถียงว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นเป็นของจำเลยที่เข้าหุ้นซื้อไว้ด้วยแต่อย่างใด
2 ศาลฎีกาเห็นว่า ในชั้นพิจารณาไม่ปรากฏรายละเอียดว่าจำเลยเข้าหุ้นซื้อมาเมื่อวันเวลาใด หรือเข้าหุ้นซื้อกี่ฉบับ ฉบับใดบ้าง หรือเข้าหุ้นร่วมซื้อเป็นเงินจำนวนเท่าใด ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงสำคัญที่จำเลยควรจะต้องจดจำได้อย่างแม่นยำเพราะหากถูกรางวัลจำเลยจะต้องคิดคำนวณเงินส่วนแบ่งที่จำเลยจะพึงได้รับจากโจทก์ร่วมด้วย แต่จำเลยก็หาได้นำสืบหรือเบิกความถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ชัด
3 และในทางนำสืบ คงมีจำเลยและนาย จ.สามีจำเลยซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีโดยตรงเบิกความเท่านั้น การรับฟังคำพยานดังกล่าวจึงต้องพึงกระทำด้วยความระมัดระวัง
4 ศาลฎีกายังวินิจฉัยต่อไปอีกว่า ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม เป็นบทบัญญัติขยายความคำว่า ข้อสาระสำคัญในวรรคสองให้เข้าใจว่า ถ้าหากข้อแตกต่างนั้นเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดถือว่าแตกต่างกันในข้อสาระสำคัญ แต่ถ้าหากแตกต่างกันเพียงรายละเอียดที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องให้ถือว่าข้อแตกต่างกันนั้นมิใช่ข้อสาระสำคัญ ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และยักยอกทรัพย์ ตาม ป.อ. มาตรา 335, 336, 352 คือการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปโดยเจตนาทุจริตเช่นเดียวกัน คงแตกต่างกันเพียงเรื่องการเอาทรัพย์นั้นไปโดยวิธีการใด กล่าวคือ ด้วยวิธีการเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเองหรือผู้อื่นโดยทุจริต หรือด้วยวิธีการลักเอาทรัพย์นั้นไปโดยฉกฉวยเอาซึ่งหน้า หรือด้วยวิธีการครอบครองทรัพย์นั้นแล้วเบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต เท่านั้น วิธีการในการเอาทรัพย์นั้นไปที่แตกต่างกันดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสาระสำคัญ)
(หลักกฎหมาย ป.อ.มาตรา 352 วรรคหนึ่ง ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคสาม)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849