รวมคำพิพากษาศาลฎีกา » ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ

16 สิงหาคม 2025
740   0

ฎีกาเด่นรายวันโดยที่ปรึกษา ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ
3717.ภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้ให้เช่าซื้อได้รับรถยนต์ที่เช่าซื้อกลับคืนมา ผู้ให้เช่าซื้อจะเรียกค่าเสื่อมราคาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1759/2568 คดีนี้โจทก์มิได้ฟ้องจำเลยให้รับผิดตามสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกัน แต่ฟ้องให้จำเลยรับผิดโดยอาศัยอำนาจแห่งมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนที่พิพากษาให้จำเลยต้องร่วมกับบริษัท บ. คืนรถยนต์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดี ดังนั้น หลังจากศาลมีคำพิพากษาในคดีก่อนแล้ว หากรถยนต์ที่เช่าซื้อที่คืนโจทก์ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดีก็เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นใหม่ โจทก์จึงมีอำนาจแห่งมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนเรียกร้องให้จำเลยรับผิดในความเสียหายตามที่กำหนดในคำพิพากษาเท่านั้น ไม่อาจอาศัยมูลหนี้ตามคำพิพากษาในคดีก่อนเรียกร้องค่าเสียหายอื่น ที่โจทก์ฎีกาขอให้จำเลยชำระค่าเสียหายเป็นค่าเสื่อมราคารถอีกเป็นเงิน 419,474.20 บาท จึงมิใช่ค่าเสียหายที่อาศัยมูลหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดในค่าเสื่อมราคารถตามที่โจทก์ฎีกา
ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เมื่อนำเงินที่โจทก์ได้รับทั้งหมดมาหักกับราคาที่แท้จริงที่โจทก์ใช้เงินลงทุนไป จำเลยจึงต้องชำระค่าขาดราคารถเป็นเงิน 369,900 บาท และศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียหายโดยคำนึงถึงผลประโยชน์จากเงินลงทุนของโจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ มิใช่การกำหนดค่าเสียหายจากสภาพของรถยนต์ที่เช่าซื้อที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดีว่ามีความชำรุดทรุดโทรมเสียหายอย่างไร จึงเป็นการกำหนดค่าเสียหายที่เกินเลยจากมูลหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดตามที่กำหนดในคำพิพากษาในคดีก่อน เป็นการพิพากษาให้จำเลยรับผิดเกินกว่าความรับผิดตามกฎหมาย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์และฎีกา แต่ปัญหาว่าจำเลยจะต้องรับผิดตรงตามคำฟ้องและตามกฎหมายเพียงใดเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 เมื่อโจทก์ฟ้องมาด้วยว่ารถยนต์ที่เช่าซื้อนั้นเสื่อมโทรมจากการใช้งานโดยไม่ดูแลเอาใจใส่ของผู้เช่าซื้อ จึงพออนุโลมได้ว่าเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดี
(หมายเหตุ 1 โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเสื่อมโทรมจากการใช้รถยนต์ที่เช่าซื้อโดยไม่ดูแลเอาใจใส่ของผู้เช่าซื้อ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พออนุโลมได้ว่าเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดจากการคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดีตามที่กำหนดในคำพิพากษา จึงเห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายอันเนื่องจากการคืนรถยนต์ที่ไม่อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยและใช้การได้ดีให้แก่โจทก์)
(หลักกฎหมาย ป.พ.พ.มาตรา 215 , ป.วิ.พ.มาตรา 142 (5) , พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 มาตรา 7)
นายผดุงศักดิ์ จันเดชชนะวงศ์ ที่ปรึกษานายกสภาทนายความ กรรมการสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการสภาทนายความภาค 3 ปีบริหาร 2565-2568 โทร.081-9663849